วนอุทยานถ้ำแก้วโกมล แม่ลาน้อย แม่ฮ่องสอน

ถ้ำแก้วโกมล  เดิมเรียกชื่อถ้ำผลึกแคลไซค์  อำเภอแม่ลาน้อย  จังหวัดแม่ฮ่องสอน  ในเขตประทานบัตรเหมืองแร่ฟลูออไรต์   ถ้ำแก้วโกมลได้ถูกค้นพบโดยวิศวกรเหมืองแร่  ประจำสำนักงานทรัพยากรธรณี  จังหวัดแม่ฮ่องสอน  เมื่อวันที่  10 พฤศจิกายน  2536  สภาพภายในถ้ำเต็มไปด้วยผลึกแคลไซค์  (Caicite)  รอบด้านทั้งบริเวณผนังของถ้ำ  ผลึกมีรูปร่างลักษณะแตกต่างกันมากมายหลายแบบจับตัวกันมองดูคล้ายปะการัง ดอกกระหล่ำ  เกล็ดน้ำแข็ง  และโคมไฟเพดาน  มีสีขาวใส  เหลือง  แดง  และน้ำตาล  มีความสวยงามมากตามธรรมชาติ  มีคุณค่าและความสำคัญต่อการค้นคว้าวิจัย

              ในปี  พ.ศ.  2538  กรมทรัพยากรธรณี  ได้ทำการพัฒนาด้านความสะดวกและความปลอดภัยในการเข้าชมถ้ำ  ได้ดำเนินการกันเขตพื้นที่บริเวณรอบถ้ำในเขตรัศมี  200  เมตร  ครอบคลุมเนื้อที่  51  ไร่  1  งาน  04  ตารางวา  ออกจากพื้นที่ประทานบัตร 

ใน วันที่  19  กุมภาพันธ์  2544  สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ  พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร (พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10) ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรถ้ำผลึกแคลไซต์แม่ลาน้อย  และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ  ได้พระราชทานนามใหม่ว่า  “ถ้ำแก้วโกมล”  ซึ่ง  “แก้วโกมล”  ความหมายว่าแก้วแห่งความงาม  และได้พระราชทานนามห้องภายในถ้ำฯ  รวมจำนวน  5  ห้อง  ดังนี้

ห้องพระทัยธาร มีที่มาจากการที่น้ำในถ้ำ ละลายหินปูนไหลเหมือนเป็นธารน้ำตก

วิมานเมฆ ตั้งตามลักษณะของแร่ที่อยู่ตามเพดาน ซึ่งดูคล้ายปุยเมฆ

เฉกหิมพานต์ เกิดจากจินตนาการของพระองค์ท่านที่มองแล้วเหมือนอยู่ในป่าหิมดานต์ตามวรรณคดี

ม่านผาแก้ว งดงามไปด้วยผลึกแก้วขาวใสที่เกาะอยู่ราวกับม่านเต็มถ้ำ

เพริศแพร้วมณีบุปผา เต็มไปด้วยผลึกแร่ที่ละเอียดเป็นรูปเข็มคล้ายเกล็ดน้ำแข็ง เปราะบาง แตกหัง่าย จัดว่าเป็นผลึกที่สวยงามและเด่นที่สุดของถ้ำ

           ลักษณะเด่นของถ้ำแก้วโกมล  คือ  เป็นถ้ำผลึกแคลไซต์ที่สวยงามที่สุดในประเทศ ไทย  ซึ่งเป็นถ้ำแร่ 1 ใน 3 แห่งของโลก  คือที่ประเทศจีน ออสเตรเลีย และไทย

           การเกิดผลึกแคลไซต์  หรือแคลเซียมคาร์บอเนต  เกิดจากกระบวนการกลั่นตัวตกผลึก (Crystallizaton)  ของไอน้ำร้อนที่ละลายแคลเซียมในถ้ำจนอิ่นตัวแล้วเกิดเป็นผลึกจับตามผนังถ้ำ  เชื่อว่าถ้ำแก้วโกมลเดิมเป็นทางน้ำร้อนใต้ดิน  เมื่อกระแสน้ำร้อนละลายสารแคลเซียมที่ฟุ้งกระจายอยู่ในโพรงถ้ำภายใต้ อุณหภูมิที่เหมาะสมจึงเกิดเป็นผลึกแร่บริสุทธิ์และอ่อนนุ่มราวหิมะ  ซึ่งพบเห็นได้ยากมาก  ภายในถ้ำแก้วแบ่งออกเป็นห้องโถงถ้ำทั้งหมด  5  ห้อง  เมื่อผ่านทางเข้าปากถ้ำ  สามารถเดินชมถ้ำแก้วไปตามทางเดินที่เชื่อมถึงกันตลอด  ห้องโถงถ้ำที่น่าสนใจได้แก่ห้องที่  4  ซึ่งมีผลึกแคลไซต์บริสุทธิ์ที่มีรูปร่างคล้ายปะการัง  ผลึกรูปเข็ม  และเกล็ดน้ำแข็ง  และห้องที่  5  ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ลึกที่สุดมีความสวยงามมากที่สุด  มีผลึกแคลไซต์ ที่สมบูรณ์มากตามพื้นที่และผนังทั้งผลึกรูปเข็มและรูปปะการังสีขาว  อย่างไรก็ดี  เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่มีความเปราะบาง  ในขณะเดินชมควรระวังไม่ให้ชนกับผลึกแคลไซต์  ภายในถ้ำขณะเดินชม  เพราะอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้
                ช่วงเวลาในการเข้าชมถ้ำแห่งนี้สามารถเที่ยวชมได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือน พฤษภาคมของทุกปีเท่านั้น  ถ้ำแก้วโกมลจะปิดทำการงบบริการนักท่องเที่ยวในเดือนมิถุนายนถึงเดือน กันยายนทุกปี  แต่ช่วงที่ดีที่สุดคือช่วงเดือนตุลาคม – เมษายน  เพราะเป็นช่วงที่น้ำในถ้ำแห้งสนิท  ไม่เปียกชื้น  รวมถึงไม่มีหยดน้ำจากเพดานถ้ำให้รำคราญ  และเนื่องจากถ้ำแก้วโกมลเป็นโพรงถ้ำที่อยู่ลึกลงไปในดิน  อากาศถ่ายเทไม่สะดวก  นักท่องเที่ยวที่มีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงหรือมีโรคประจำตัว  ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนพาเข้าชมถ้ำ  เพื่อความปลอดภัย
               เนื่องจากถ้ำแก้วโกมลเป็นถ้ำที่มีผลึกแร่แคลไซต์  ซึ่งถ้าหากสัมผัสกับมนุษย์ก็จะทำปฏิกิริยากับโปรตีนในเหงื่อของมนุษย์ ทำให้หมองคล้ำ  ดำไม่มีความสวยงามอีกต่อไป  การเข้าชมถ้ำแก้วโกมลจึงห้ามจับผนังถ้ำและผลึกแร่  และไม่ควรใส่หมาวกเข้าไปในถ้ำ  หมวกอาจจะไปเกี่ยวกับผลึกแร่และเกิดความเสียหายได้  เพื่อเป็นการรักษาผลึกแร่ไว้ให้คงอยู่ต่อไป  ภายในถ้ำแก้วโกมลมีอากาศร้อนและเป็นที่อับ  อากาศถ่ายเทได้น้อย  มีออกซิเจนน้อยภายในถ้ำ  จึงกำหนดให้เข้าชมได้รอบละ  25  นาที จำนวนคนไม่เกิน  25  คน  เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว                    

การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 เข้าสู่ อ.แม่ลาน้อย จากหน้าโรงพยาบาลแม่ลาน้อยแยกเข้าไปอีก 5 กม. จะถึงศูนย์บริการถ้ำแก้วโกมล โดยมีลานจอดรถ และขายบัตรเข้าชม อัตราค่าบริการ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
และจะมีรถรับส่งบริการฟรี จากศูนย์บริการไปส่งที่ที่ทำการหน้าถ้ำ

แผนที่ ถ้ำแก้วโกมล

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

วัดนันตาราม เชียงคำ พะเยา

วัดนันตาราม สร้างขึ้นโดยชาวไทใหญ่ แต่เดิมเรียก วัดจองคา […]

Read more

วัดศรีโคมคำ พะเยา

วัดศรีโคมคำ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี เป็นวัดคู่บ้านคู่เม […]

Read more

กาแฟท่าจักร 45 คอฟฟี่ ลำพูน

กาแฟท่าจักร ๔๕ คอฟฟี่ อำเภอเมือง ลำพูน กาแฟดี อยู่ที่รส […]

Read more